จากรายงานพบว่าหลังจากการฉีดวัคซีนครบ 3 เข็มในกลุ่มผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ระดับประสิทธิผล (effective rate) ของวัคซีนซิโนแวค (SINOVAC) ช่วยป้องกันการเจ็บป่วยรุนแรงได้ถึง 97.9% และประสิทธิผลของวัคซีน ไบโอเอ็นเทค (BioNTech) อยู่ที่ 98.0% ทั้งนี้ ระดับประสิทธิผลในการป้องกันการเสียชีวิตของวัคซีนซิโนแวค และ ไบโอเอ็นเทค เท่ากับ 98.3% และ 98.1% ตามลำดับ
การศึกษาวิจัยดังกล่าวยังชี้ให้เห็นด้วยว่า สำหรับผู้ที่มีอายุมากกว่า 60 ปี ในกรณีที่ได้รับวัคซีนแล้ว 2 เข็ม ระดับประสิทธิผลของวัคซีนซิโนแวค และ ไบโอเอ็นเทค ป้องกันการเจ็บป่วยรุนแรง อยู่ที่ 72.2% และ 89.6% ตามลำดับ ส่วนระดับประสิทธิผลในการป้องกันการเสียชีวิตอยู่ที่ 77.4% และ 92.3% ตามลำดับ ส่วนผลการศึกษาจากสถานการณ์จริงก็ยืนยันประสิทธิผลของวัคซีนชนิดเชื้อตายของจีนเช่นกัน และข้อดีด้านความปลอดภัยของวัคซีนชนิดนี้ยังสามารถลดอาการข้างเคียงที่ค่อนข้างรุนแรงได้ เช่น มีไข้สูง กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ (myocarditis) รวมถึงอาการแพ้เฉียบพลันที่เกิดจากการใช้วัคซีน mRNA ในปริมาณมาก
ผลการวิจัยซึ่งวิเคราะห์ผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลในช่วงที่เชื้อโควิดสายพันธุ์โอมิครอนระบาดอย่างต่อเนื่องในฮ่องกง ซึ่งส่งผลต่อกลยุทธ์การจัดการโควิดในประเทศจีน โดยข้อมูลของทางการของจีนแสดงให้เห็นว่า ความครอบคลุมของวัคซีนของผู้ที่ได้รับวัคซีนอย่างน้อย 2 เข็ม อยู่ที่ 88% และผู้คนจำนวน 659 ล้านคน ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นแล้ว อย่างไรก็ตามจากข้อมูลปัจจุบันที่เป็นทางการ ยังมีช่องว่างที่ควรได้รับการปรับปรุงในส่วนของอัตราการฉีดวัคซีนของกลุ่มผู้สูงอายุในบางพื้นที่ เนื่องจากประมาณครึ่งหนึ่งของผู้สูงอายุที่มีอายุ 80 ปี ขึ้นไปยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนเลย
ในเดือนตุลาคม ปี 2564 องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้แนะนำให้ฉีดวัคซีนซิโนแวคเข็มที่ 3 ในกลุ่มผู้ที่มีอายุ 60 ปี ที่เคยได้รับวัคซีนซิโนแวคไปแล้ว การศึกษาครั้งนี้สนับสนุนสมมติฐานที่ว่า การได้รับวัคซีนซิโนแวค 3 เข็ม สามารถป้องกันการเจ็บป่วยรุนแรงหรือการเสียชีวิตในผู้ที่มีอายุเกิน 60 ปีได้ดีกว่าการได้รับวัคซีนซิโนแวค เพียง 2 เข็ม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น