เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2565 สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม จัดเสวนาออนไลน์ภายใต้หัวข้อ “สู้ภัยน้ำท่วม ด้วยวิจัยและนวัตกรรม” เพื่อรายงานสถานการณ์ระบบน้ำของประเทศในระยะ 14 วัน และ 3 เดือน ที่ผ่านมา รวมทั้งสร้างการรับรู้และเข้าใจทางวิชาการแก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประชาชนในการเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วมในปัจจุบันด้วยงานวิจัยและนวัตกรรม พร้อมทั้งเป็นพลังขับเคลื่อนให้ประชาชนและชุมชนรอดพ้นจากวิกฤตน้ำท่วมไปด้วยกัน ผ่านรูปแบบ Online Conference โปรแกรม Zoom และ Facebook Live โดยมี ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวนำประเด็นภาพรวมของระบบบริหารจัดการน้ำของประเทศและสู้ภัยวิกฤตน้ำท่วมในปัจจุบัน ผู้ร่วมเสวนาประกอบด้วย รศ.ดร.สุจริต คูณธนกุลวงศ์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในฐานะประธานแผนงานวิจัยเข็มมุ่งด้านบริหารจัดการน้ำของ วช. กล่าวถึง ยุทธศาสตร์เป้าหมายแผนงานบริหารจัดการน้ำ ดร.กนกศรี ศรินนภากร แห่งสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) นำเสนอ ระบบคาดการณ์ฝน ผศ.ดร.ไชยาพงษ์ เทพประสิทธิ์ แห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ให้รายละเอียดเกี่ยวกับการประเมินการบริหารจัดการน้ำในลุ่มน้ำ และ รศ.ดร.สุทธิศักดิ์ ศรลัมพ์ แห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้นำเสนอเกี่ยวกับการนำแพลตฟอร์มการสื่อสารแก้ไขปัญหาน้ำ ต่อเวทีการเสวนา ดำเนินรายการโดย ดร.ขวัญฤดี โชติชนาทวีวงศ์ ผู้อำนวยการศูนย์ประสานเพื่อพัฒนาโจทย์และนวัตกรรมสู่การใช้ประโยชน์ด้านสิ่งแวดล้อม
ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า วิกฤตน้ำท่วมในทุกครั้งของประเทศส่งผลต่อความเป็นอยู่ การเดินทาง คุณภาพชีวิต และเศรษฐกิจฐานรากและมหภาคของประชาชน วช.ในฐานะหน่วยงานสนับสนุนการวิจัยและนวัตกรรมในการแก้ไขและพัฒนาประเทศ ได้มีการสนับสนุนส่งเสริมด้านการจัดการบริหารทรัพยากรน้ำมาอย่างต่อเนื่อง โดยสนับสนุนทุนวิจัยให้กับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนเพื่อนำนวัตกรรมและองค์ความรู้จากการวิจัยในการรับมือปัญหาการจัดการน้ำทั้งระบบในทุกมิติ โดยส่งผ่านงานวิจัยและทำงานร่วมกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการน้ำของประเทศ เช่น สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) (สสน.) สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) กรมชลประทาน กรมอุตุนิยมวิทยา กรมควบคุมมลพิษ เป็นต้น ทั้งในเชิงนโยบาย เชิงพื้นที่ และการมีส่วนร่วมระดับชุมชน



ดร.ขวัญฤดี โชติชนาทวีวงศ์ ในฐานะผู้ทรงวุฒิ วช. กล่าวว่า วช. ยังเน้นการประสานงานเพื่อให้ทุกหน่วยงานทำงานด้วยกันได้บนฐานข้อมูลเดียวกันและใช้ประโยชน์ร่วมกัน อย่างไรก็ตามในระยะอันใกล้ยังต้องการงานวิจัยด้านการประเมินพื้นที่หน่วงและเก็บน้ำให้เพียงพอต่อปริมาณฝนที่เกิดขึ้น เพื่อให้เกิดภาวะน้ำรอการระบายสั้นที่สุด และส่งผลกระทบต่อประชาชนน้อยที่สุด ในปีหน้าระบบงานวิจัยด้านการบริหารจัดการน้ำน่าจะมีการตั้งรับที่ดีขึ้น โดยใช้ข้อมูลและการคาดการณ์ที่แม่นยำเพื่อป้องกันในทุกภัยของวิกฤตน้ำ โดยนักวิจัยจะให้ข้อมูลผู้บริหารแต่ละพื้นที่ว่าน้ำท่า และน้ำฝนเป็นอย่างไร เพื่อให้บริหารจัดการได้ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับหน่วยงานซึ่งทำหน้าที่บริหารจัดการทรัพยากรน้ำในภาพใหญ่ รวมถึงการวิจัยในเชิงนโยบายเพื่อปรับเชิงโครงสร้าง และมีกลุ่มงานวิจัยที่ทำงานเชิงพื้นที่ และการสำรองน้ำใต้ดินเพื่ออนาคต ในปีหน้าเราน่าจะมีการตั้งรับที่ดีขึ้น รวมถึงการให้ข้อมูลเชิงป้องกันก่อนที่จะเกิดเหตุอุทกภัย
โดย วช. ในฐานะหน่วยงานสนับสนุนทุนวิจัย ได้สนับสนุนงานวิจัยเรื่องการบริหารจัดการน้ำของประเทศมาอย่างต่อเนื่อง ในการบริหารจัดการน้ำทั้งระบบ ครอบคลุมทั้งน้ำท่วม น้ำแล้ง เพื่อการอุปโภคบริโภค การจัดการน้ำเสีย รวมถึงผลของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทั้งในระดับพื้นที่และระดับนโยบายประเด็น “น้ำท่วม น้ำแล้ง” ซึ่งเป็นหนึ่งในวิกฤติที่ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชนที่ประสบภัยมาโดยตลอด สร้างผลกระทบต่อเศรษฐกิจในภาพรวม ซึ่ง วช. ได้สนับสนุนงบประมาณแก่แผนงานยุทธศาสตร์เป้าหมายด้านสังคม แผนงานบริหารจัดการน้ำ เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น ด้วยการพัฒนาองค์ความรู้จากงานวิจัยและนวัตกรรม โดยร่วมมือกับหน่วยงานทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม รวมถึงระดับพื้นที่ เพื่อสนับสนุนการนำความรู้ วิชาการต่าง ๆ มาใช้ประโยชน์ และสื่อสารให้สังคมและชุมชนรับรู้ เข้าใจ และเตรียมพร้อมกับการเปลี่ยนแปลง ทั้งในปัจจุบันและในอนาคต เพื่อลดผลกระทบและความเสี่ยงจากการผันแปรของสภาพภูมิอากาศ สู้วิกฤตน้ำท่วมด้วยวิจัยและนวัตกรรมอย่างยั่งยืนต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น