วันที่ 14 ธันวาคม 2565 กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม จัดพิธีมอบใบประกาศนียบัตรแสดงความยินดี แก่นักประดิษฐ์และนักวิจัยไทยที่คว้ารางวัลจากเวทีนานาชาติ Internationally Outstanding Inventors Awards Ceremony ณ ห้องมัฆวานรังสรรค์ ชั้น 3 สโมสรทหารบก วิภาวดี ซึ่งภายในงานมีนิทรรศการผลงานของนักประดิษฐ์และนักวิจัยไทยที่ได้รับรางวัลจากเวทีการประกวดสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมจากเวทีนานาชาติ และมีการปาฐกถาพิเศษ “พัฒนากำลังคนของประเทศสู่เวทีระดับนานาชาติ” พร้อมทั้งมอบประกาศนียบัตรแสดงความยินดีแก่นักประดิษฐ์และนักวิจัยไทย โดย ศาสตราจารย์ ดร. นายแพทย์ สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ประธานในพิธี โดยมี ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวรายงานผลสำเร็จการส่งเสริมและพัฒนานักประดิษฐ์และนักวิจัยไทยในเวทีระดับนานาชาติ นับเป็นความภาคภูมิใจของประเทศไทยที่นักประดิษฐ์และนักวิจัยไทยได้สร้างชื่อเสียงนำนวัตกรรมของประเทศไทยสู่เวทีนานาชาติ
ศาสตราจารย์ ดร. นายแพทย์ สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กล่าวว่า ปัจจุบันเทคโนโลยีและนวัตกรรมมีความก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว และยังเป็นตัวแปรสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนประเทศก้าวเดินไปข้างหน้า “คน” ถือเป็นอีกทรัพยากรและกลไกการขับเคลื่อนสำคัญที่ อว. ให้ความสำคัญ เพื่อ “เตรียมคนไทยแห่งศตวรรษที่ 21 พัฒนาเศรษฐกิจที่กระจายโอกาสอย่างทั่วถึง สังคม
ที่มั่นคง และสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน โดยสร้างความเข้มแข็งทางนวัตกรรมระดับแนวหน้าในสากล นำประเทศไปสู่ประเทศที่พัฒนาแล้ว” โดยเป้าประสงค์ของการพัฒนา นอกเหนือจากเรื่องกำลังคนแล้ว การวิจัยสู่การสร้างนวัตกรรมเพื่อเพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขัน กว่า 4 ปีของการจัดตั้งกระทรวง อว. กระทรวงแห่งปัญญา โอกาส และอนาคต เป้าหมายที่สำคัญคือการพัฒนาอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศให้มีเอกภาพและเป็นระบบ พัฒนาบุคลากรด้านอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมให้มีความเข้มแข็ง สามารถสร้างสรรค์ผลงานที่สามารถนำไปสู่การใช้ประโยชน์ทั้งในเชิงเศรษฐกิจและสังคม อันจะเป็นประโยชน์
ต่อการพัฒนาประเทศ และสอดรับกับการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์โลกได้ สู่การใช้ประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรม ผ่าน PMU ที่เป็น Funding Agency ต่าง ๆ ที่อยู่ภายใต้การกำกับของกระทรวงฯ ส่วนการสนับสนุนทางอ้อม เช่น การสร้างแรงจูงใจ และการให้รางวัล ประกาศเกียรติคุณ หรือยกย่องบุคคลหรือ หน่วยงานด้านการวิจัยและนวัตกรรม ทั้งในระดับชาติและนานาชาติ วช. ได้ทำหน้าที่เป็นผู้เสนอชื่อและประสานงานหลักของประเทศไทยในการนำส่งผลงานของนักประดิษฐ์และนักวิจัยไทยเข้าร่วมประกวดและจัดแสดงในเวทีระดับนานาชาติในรูปแบบออนไซต์ จำนวน 4 เวที ทั้งในทวีปยุโรปและเอเชีย โดยสนับสนุนนักวิจัยและนักประดิษฐ์ไทยในการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในระดับนานาชาติแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของคนไทยในระดับสากล ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประกาศเกียรติคุณนักประดิษฐ์และนักวิจัยไทยที่ได้รับรางวัลจากเวทีนานาชาติ จำนวน 149 ผลงาน และเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ผลงานประดิษฐ์คิดค้นและนวัตกรรมที่ร่วมนำเสนอ
ในเวทีนานาชาติที่ได้รับรางวัลสูงสุดจากการประกวด (Grand Prize) จำนวน 4 ผลงาน และรางวัลระดับเหรียญทอง จำนวน 59 ผลงาน โดยในปีงบประมาณ 2566 วช. ในฐานะหน่วยงานคัดเลือกและนำส่งผลงานเข้าร่วมประกวดในเวทีนานาชาติของประเทศไทยการประสานนำผลงานวิจัย สิ่งประดิษฐ์ และนวัตกรรมของนักประดิษฐ์และนักวิจัยไทยเข้าร่วมประกวดและจัดแสดงในเวทีระดับนานาชาติ จำนวน 4 เวที ดังนี้
1) เวที “Taiwan Innotech Expo 2022” (TIE 2022) ณ เมืองไทเป ไต้หวัน โดยนักประดิษฐ์ไทยสามารถ
คว้าเหรียญรางวัลประเภทต่าง ๆ ดังนี้ เหรียญทองจำนวน 7 รางวัล เหรียญเงินจำนวน 8 รางวัล
เหรียญทองแดงจำนวน 5 รางวัล และรางวัลพิเศษจากประเทศต่าง ๆ จำนวน 9 รางวัล
2) เวที “The International Trade Fair – Ideas, Inventions and New Products” (iENA 2022) ณ เมืองนูเรมเบิร์ก สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี โดยนักประดิษฐ์ไทยสามารถคว้ารางวัล iENA Fair Management ซึ่งเป็นรางวัลสำคัญของงาน จำนวน 1 รางวัล และเหรียญรางวัลประเภทต่าง ๆ ดังนี้ เหรียญทองจำนวน 10 รางวัล เหรียญเงินจำนวน 13 รางวัล เหรียญทองแดงจำนวน 6 รางวัล และรางวัลพิเศษจากประเทศต่าง ๆ จำนวน 28 รางวัล
3) เวที “Seoul International Invention Fair 2022” (SIIF 2022) ณ กรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลี โดยนักประดิษฐ์ไทยสามารถคว้ารางวัล Grand Prize ซึ่งเป็นรางวัลสูงสุดของงาน จำนวน 2 รางวัล และเหรียญรางวัลประเภทต่าง ๆ ดังนี้ เหรียญทองจำนวน 27 เหรียญ เหรียญเงินจำนวน 10 เหรียญ เหรียญทองแดงจำนวน 25 เหรียญ และรางวัลพิเศษจากประเทศต่าง ๆ จำนวน 30 รางวัล
4) เวที “2022 Kaohsiung International Invention & Design Expo” (KIDE 2022) ณ เมืองเกาสง ไต้หวัน โดยนักประดิษฐ์ไทยสามารถคว้า WIIPA Grand Prize – Commercial Potential Award ซึ่งเป็นรางวัลสำคัญที่มอบให้กับผลงานที่มีศักยภาพโดดเด่นในเชิงพาณิชย์ จำนวน 1 รางวัล และเหรียญรางวัลประเภทต่าง ๆ ดังนี้ รางวัลเหรียญทองจำนวน 15 รางวัล เหรียญเงินจำนวน 9 รางวัล เหรียญทองแดงจำนวน 5 รางวัล และรางวัลพิเศษจากประเทศต่าง ๆ จำนวน 15 รางวัล
นับเป็นความภาคภูมิใจอย่างยิ่งนำไปสู่การพัฒนาบุคลากรด้านการวิจัยและนวัตกรรมให้มีความเข้มแข็ง
สู่การใช้ประโยชน์ในวงกว้างมากยิ่งขึ้นในการสร้างสรรค์ผลงานที่มีคุณภาพอย่างเป็นรูปธรรมและร่วมกันพัฒนาประเทศของเราให้ยั่งยืนสืบไป
ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า หนึ่งในบทบาทและภารกิจที่สำคัญของ สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ภายใต้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม คือการส่งเสริมและสนับสนุนการนำผลงานสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมของนักประดิษฐ์และนักวิจัยไทย เข้าร่วมประกวดและจัดแสดงในเวทีสำคัญระดับนานาชาติอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างการยอมรับในมาตรฐานของผลงานสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมของไทยในระดับสากล ตลอดระยะเวลากว่า 10 ปีที่ วช. ได้ดำเนิน “โครงการส่งเสริมผลงานวิจัยและสิ่งประดิษฐ์สู่เวทีนานาชาติ” ในฐานะหน่วยงานที่ได้รับมอบหมายจากองค์กรต่างประเทศ
ด้านการส่งเสริมและประดิษฐ์คิดค้นและนวัตกรรมให้เป็นหน่วยงานของประเทศไทยที่ทำหน้าที่พิจารณาคัดเลือกและนำส่งผลงานประดิษฐ์กรรมและนวัตกรรมของนักประดิษฐ์ไทยเข้าร่วมประกวดในเวทีนานาชาติกว่า 300 ผลงานต่อปี โดย วช. มีความมุ่งมั่นในการส่งเสริมและผลักดันให้ผลงานประดิษฐ์คิดค้นของนักประดิษฐ์ไทยได้ก้าวสู่เวทีระดับโลกอย่างต่อเนื่อง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น