นอกจากนี้ นพ.ภาสกร วันชัยจิระบุญ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ รพ.พระปกเกล้า ด้านศูนย์ความเชี่ยวชาญระดับสูงด้านมะเร็ง ได้ให้ข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับมะเร็งตับว่า มะเร็งตับส่วนใหญ่เกิดจาก โรคตับแข็ง ซึ่งมีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการดื่มแอลอฮอล์เป็นประจำ และเกิดจากสาเหตุตับอักเสบจากไขมันพอกตับ ภาวะอ้วน รวมถึงการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ บี หรือ ซี และผู้ที่ชอบรับประทานอาหารที่มีพยาธิทำให้ท่อน้ำดีอักเสบ ตับอักเสบเรื้อรัง ตับแข็ง และเป็นมะเร็งตับ ซึ่งเป็นภัยเงียบ เพราะส่วนใหญ่ไม่มีอาการในระยะแรก พอมาตรวจเจอในระยะท้าย ๆ ต้องรักษาตามอาการแล้ว เพราะตัวเนื้อตับไม่ไหว การรักษาอาจไม่เป็นผล ซึ่งจะมีโอกาสมีชีวิตต่อประมาณเพียง 3 เดือน ทั้งนี้ แนะนำให้ทุกคนตรวจร่างกายอย่างละเอียด ฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบและฉีดวัคซีนกระตุ้นภูมิ เพื่อป้องกันมะเร็งตับไม่ให้เกิดขึ้นกับเรา”
ในด้านความก้าวหน้าและการสนับสนุนจากทางภาครัฐ นพ.รัฐพล เตรียมวิชานนท์ ผู้ทรงคุณวุฒิ สนง.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เผยว่า “ตั้งแต่เดือนมกราคม 2564 ที่ผ่านมา สปสช.ได้เปิดตัวโครงการ Cancer Anywhere เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยมะเร็งด้านค่าใช้จ่าย ระยะเวลา และเทคโนโลยีการรักษา โดยจากข้อมูลสถิติล่าสุด มะเร็งกลายเป็นโรคที่ผู้ป่วยไม่ลดลงเลยถึงแม้จะเกิดโควิดอยู่ จึงเป็นภัยร้ายที่น่ากลัว ภาครัฐ โรงพยาบาล และองค์กรอื่น ๆ ทุกสังกัดทำกิจกรรมร่วมกันในโครงการนี้ จะมีพยาบาลคอยดูคิวผ่าตัด ฉายแสง ทำเคมีบำบัด ทำให้สามารถรักษาได้เร็ว ไม่ต้องเสี่ยงดวงและไม่ต้องเสียเงิน ทางเราจะมีเครือข่ายส่งต่อระหว่างกันในแต่ละโรงพยาบาลผ่าน สปสช. ที่ทำหน้าที่เป็นคนกลาง ผู้ป่วยจะได้ไม่ต้องรอนาน และเข้าถึงการรักษาได้เร็วขึ้น”
ในฐานะอายุรแพทย์มะเร็งวิทยา นพ.ภาสกร กล่าวว่า ในประเทศไทยมีนวัตกรรมการรักษาผู้ป่วยมะเร็งตับด้วยยารักษาครอบคลุมทุกชนิดแล้ว โดยมีการรักษาที่แตกต่างกันในผู้ป่วยมะเร็งตับในแต่ระยะ และจากสถิติที่เคยศึกษาในปี 2012* ในกรณีที่ผู้ป่วยไม่ได้รับการรักษาในระยะต่างๆ หากได้รับการรักษาที่ถูกต้องตามระยะโรค ผู้ป่วยมะเร็งตับจะมีอายุยืนยาวขึ้นในแต่ระยะโดยมีนัยยะสำคัญดังนี้• ระยะที่ 1 (ระยะ A) มีก้อนเล็กๆ หากคนไข้ได้รับการรักษาด้วยการผ่าตัด เปลี่ยนตับ หรือการใช้คลื่นเสียงความถี่สูงละลายก้อนเล็กๆ ที่เพิ่งเริ่มเป็น จะสามารถยืดชีวิตผู้ป่วยยาวขึ้นได้ถึง 120 เดือน จาก 30 เดือน ในกรณีที่ไม่ได้รับการรักษาใดๆ
• ระยะที่ 2 (ระยะ B) หรือระยะกลางที่ก้อนเริ่มใหญ่ขึ้น หากได้รับการสวนอุดเส้นเลือด จะช่วยให้ผู้ป่วยมีอายุมากกว่า 26 เดือน จาก 15 เดือน
• ระยะที่ 3 (ระยะ C) ระยะกระจายแต่เนื้อตับยังพอรักษาได้ หากใช้ยานวัตกรรมใหม่ๆ เช่น การใช้ยาร่วมกันหลายๆ สูตร ตั้งแต่การให้ ยามุ่งเป้า ร่วมกับยาภูมิคุ้มกันบำบัด ออกฤทธิ์ที่เส้นเลือดโดยตรง ผู้ป่วยจะมีโอกาสยืดชีวิตมากกว่า 19 เดือน จาก 7 เดือน
• ระยะที่ 4 ระยะสุดท้าย (ระยะ D) การทำงานของเนื้อตับพร่องไปเยอะมากแล้ว จะเป็นการรักษาแบบประคับประคองตามอาการ ตั้งแต่การฉายแสง ให้มอฟีนแก้ปวด หรือใช้ยาร่วม สามารถยืดอายุผู้ป่วยได้ประมาณ 3 เดือน จาก 1 เดือน
“ตามสถิติของคนไทย* ผู้ป่วยมะเร็งตับมักเป็นเพศชาย จะเริ่มพบได้ตั้งแต่อายุ 30 ปีขึ้นไป เป็นวัยแรงงานที่สำคัญในการขับเคลื่อนประเทศ โดยเฉพาะผู้ป่วยอายุตั้งแต่ 31 ปี ถึง 60 ปี ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อมูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น หากผู้ป่วยได้รับการรักษาที่ทำให้ผู้ป่วยมีชีวิตที่ยืนยาวขึ้น จะสามารถผลักดันประเทศต่อไปได้ นพ.ภาสกร” กล่าวเสริม
ทั้งนี้ คุณหัทยา วงษ์กระจ่าง ในฐานะที่เป็นผู้ดูแลใกล้ชิดของผู้ป่วยมะเร็งตับ ได้ร่วมแบ่งปันประสบการณ์ที่เกิดขึ้นกับคุณตั้ว ศรัณยู วงษ์กระจ่าง อดีตนักแสดงและผู้กำกับมากฝีมือ ผู้ป่วยที่ตนเคยดูแลว่า “พี่ตั้วเป็นไวรัสตับอักเสบบีอยู่แล้ว แต่ที่ผ่านมาไม่แสดงอาการเจ็บป่วยเลยแม้แต่น้อย แต่พอล้มลงไปครั้งหนี่งเลยได้มีโอกาสไปตรวจร่างกายอย่างละเอียด จนพบว่าเป็นมะเร็งตับระยะที่ 4 เข้าไปแล้ว จึงได้แต่รักษาตามอาการ เช่น รักษาก้อนตับส่วนที่ยังดีอยู่ ฉีดยาเพื่อไม่ให้ลุกลาม เชื่อฟังหมอและพักผ่อนเยอะ ๆ นับตั้งแต่เรารู้ผลการวินิจฉัย ใช้ระยะเวลาในการรักษาทั้งหมดประมาณ 6 เดือนเท่านั้น ก่อนที่เขาจะเสียชีวิต” ดังนั้นการตรวจสุขภาพ ดูแลความเครียด ดูแลร่างกายเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก“ทุกวันนี้ สำนักงานประกันหลักสุขภาพมีการร่วมมือกับภาคเอกชน การพิจารณาสิทธิ์การรักษาเรื่องยา และเทคโนโลยีใหม่ๆจะมีคณะกรรมการพิจารณาอย่างรอบครอบ เพื่อศึกษาเรื่องความคุ้มค่า (cost-effectiveness) ของการนำนวัตกรรมการรักษาที่ก้าวหน้ามาสู่คนไทย และเพิ่มการเข้าถึงโอกาสการรักษาด้วยยานวัตกรรมที่ได้รับการอนุมัติโดย อย. การป้องกันเป็นเรื่องที่ดีที่สุด ตั้งแต่การฉีดวัคซีน และการดูแลพฤติกรรมของเรา สุดท้ายนี้เสียงของประชาชนและผู้ป่วยทุกคนมีความหมายในการผลักดันให้รัฐบาลพิจารณา เพื่อสนับสนุนคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในอนาคต” นพ.รัฐพล กล่าวปิดท้าย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น