บริษัท เอ็มเอสดี (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศร่วมลงนามกับกระทรวงสาธารณสุข ในข้อตกลงการจัดซื้อจัดหา “ยาโมลนูพิราเวียร์” ยาต้านไวรัสชนิดรับประทาน เมื่อได้รับอนุมัติ - Wellness Times News

Breaking

Home Top Ad

POST TOP AD

วันศุกร์ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564

บริษัท เอ็มเอสดี (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศร่วมลงนามกับกระทรวงสาธารณสุข ในข้อตกลงการจัดซื้อจัดหา “ยาโมลนูพิราเวียร์” ยาต้านไวรัสชนิดรับประทาน เมื่อได้รับอนุมัติ

 “ยาโมลนูพิราเวียร์” ปัจจุบัน อยู่ในระหว่างการประเมิน สำหรับรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ที่เข้ารับการรักษาตัวในรูปแบบผู้ป่วยนอก ที่มีระดับความรุนแรงของโรคน้อยถึงปานกลาง และมีปัจจัยเสี่ยงอย่างน้อย 1 ปัจจัยอันส่งผลให้การดำเนินโรครุนแรงขึ้น

บริษัท เอ็มเอสดี ประเทศไทย (บริษัทในเครือของ บริษัท เมอร์ค แอนด์ คัมปานี อินคอร์ปอเรท เมืองเคนิลเวิร์ธ มลรัฐนิวเจอร์ซี ประเทศสหรัฐอเมริกา) ประกาศร่วมลงนามกับกระทรวงสาธารณสุข ในข้อตกลงการจัดซื้อจัดหา “ยาโมลนูพิราเวียร์” ยาต้านไวรัสชนิดรับประทานที่กำลังอยู่ในระหว่างการศึกษาสำหรับรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ที่เป็นผู้ใหญ่ที่มีระดับความรุนแรงของโรคน้อยถึงปานกลาง ที่เข้ารับการรักษาตัวในรูปแบบผู้ป่วยนอกดร. แมรี เสรฐภักดี กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอ็มเอสดี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “บริษัท เอ็มเอสดี ได้ทำวิจัยด้านโรคติดเชื้อมาอย่างยาวนาน และตั้งแต่เกิดการระบาดของโรคโควิด-19 บริษัทฯ มุ่งมั่นในการค้นคว้าวิจัยและพัฒนายานวัตกรรม เพื่อต่อสู้กับวิกฤตโรคระบาดที่ทั่วโลกยังคงเผชิญอยู่ในขณะนี้  พวกเราพยายามที่จะทำงานแข่งกับเวลาเพื่อให้ยาของเราสามารถไปถึงผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่เป็นผู้ใหญ่ที่มีอาการของโรคในระดับน้อยหรือปานกลาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มผู้ป่วยที่มีปัจจัยเสี่ยงอย่างน้อย 1 ปัจจัยอันส่งผลให้การดำเนินโรครุนแรงขึ้น เราทุกคนใน เอ็มเอสดี รู้สึกภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้ทำงานร่วมกับกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในประเทศ ในการต่อสู้กับวิกฤตโรคระบาด การลงนามในสัญญาข้อตกลงนี้ เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของการทำงานร่วมกันของภาครัฐและบริษัทผู้ค้นคว้าวิจัยและผลิตยานวัตกรรม ในการร่วมกันจัดการกับวิกฤตโรคระบาดในประเทศไทย บริษัท เอ็มเอสดี จะยังมุ่งมั่นที่จะลงทุนในการศึกษาวิจัยและพัฒนายาและวัคซีนที่เป็นนวัตกรรมเพื่อต่อสู้กับโรคต่างๆ รวมถึงโรคอุบัติใหม่ในอนาคต”


ดร. แมรี กล่าวเสริม “ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยการทำงานร่วมกันกับกรมการแพทย์ และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ทำให้ประเทศไทยได้เข้าร่วมในโครงการวิจัยทางคลินิก “MOVe-AHEAD Study” ซึ่งอยู่ระหว่างการทำการศึกษาในระยะที่ 3  ร่วมกับอีกหลายประเทศทั่วโลก โดยมี 5 สถาบัน ในประเทศไทย เข้าร่วมการศึกษาดังกล่าว ด้วยวัตถุประสงค์เพื่อประเมินประสิทธิภาพและความปลอดภัยของยาโมลนูพิราเวียร์ในการป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ในกลุ่มเสี่ยงที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยโควิด-19”


เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2564 สำนักงานกำกับดูแลยาและผลิตภัณฑ์สาธารณสุข (MHRA) ของสหราชอาณาจักรอนุมัติให้ยาโมลนูพิราเวียร์เป็นยาต้านไวรัสชนิดรับประทานตัวแรก ในสหราชอาณาจักร สำหรับรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ที่เป็นผู้ใหญ่ที่มีระดับความรุนแรงของโรคน้อยถึงปานกลาง และมีปัจจัยเสี่ยงอย่างน้อย 1 ปัจจัยอันส่งผลให้การดำเนินโรครุนแรงขึ้น โดยบริษัท เอ็มเอสดี ได้วิจัยและพัฒนายาโมลนูพิราเวียร์ ร่วมกับบริษัท ริดช์แบค ไบโอเทราปูติคส์


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad