“เอส สไปน์” มั่นใจเทคนิคการรักษา ลุยขยายฐานต่างชาติ นำไทยสู่ Medical Hub เต็มรูปแบบ - Wellness Times News

Breaking

Home Top Ad

POST TOP AD

วันเสาร์ที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2566

“เอส สไปน์” มั่นใจเทคนิคการรักษา ลุยขยายฐานต่างชาติ นำไทยสู่ Medical Hub เต็มรูปแบบ

โรงพยาบาลเอส สไปน์ แอนด์ เนิร์ฟ ชูนวัตกรรมเฉพาะทางและทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ  ด้านกระดูกสันหลัง มุ่งสร้างผลการรักษาที่ยั่งยืน ลุยขยายฐานต่างชาติ ขานรับนโยบายเทรนด์การแพทย์สมัยใหม่ นำไทยสู่ Medical Hub เต็มรูปแบบ 

หลังจากสถานการณ์โควิดเริ่มคลี่คลายทำให้แนวโน้มธุรกิจโรงพยาบาลกลับมาคึกคักอีกครั้ง โดยเฉพาะโรงพยาบาลเอส สไปน์ แอนด์ เนิร์ฟ ซึ่งถือเป็นโรงพยาบาลเฉพาะทางด้านกระดูกสันหลังแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย ทีมีอาจารย์แพทย์จากต่างชาติร่วมเป็นพันธมิตร ซึ่งล้วนมีความเชี่ยวชาญและข้อมูลเชิงลึกในด้านการรักษาโรคหมอนรองกระดูก จึงทำให้มั่นใจได้ว่าการรักษาในแบบของเอส สไปน์ ไม่เป็นสองรองใคร  


สำหรับทิศทางแนวโน้มธุรกิจโรงพยาบาลด้านกระดูกสันหลังและระบบประสาท กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง ทำให้โรงพยาบาลต่าง ๆ โดยเฉพาะโรงพยาบาลเอกชน หันมารุกธุรกิจนี้มากยิ่งขึ้น จนเกิดการแข่งขันกันอย่างสูง แต่ก็ยังมั่นใจได้ว่าโรงพยาบาลเอส สไปน์ แอนด์ เนิร์ฟ ยังมีจุดแข็งในเรื่องของการรักษาโรคที่เกี่ยวกับกระดูกสันหลังและระบบประสาทที่เชี่ยวชาญกว่า เพราะเป็นโรงพยาบาลเฉพาะทางด้านกระดูกสันหลังแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย ทั้งในส่วนของทีมงาน นวัตกรรมใหม่ๆ เทคโนโลยีที่ทันสมัย ทุกอย่างครบวงจรและมีคุณภาพ จะช่วยทำให้แบรนด์แข็งแกร่งเหนือคู่แข่งขันได้ ทั้งนี้ปัจจุบันคนไข้ 70-80% ยังเป็นคนไข้คนไทย ส่วนที่เหลือ 20-30% จะเป็นคนไข้ต่างชาติ โดยเฉพาะกลุ่มตะวันออกกลาง และกลุ่ม CLMV เมื่อสถานการณ์โควิดคลี่คลายการขยายฐานคนไข้ ในกลุ่มนี้จึงเกิดขึ้น

โดยเมื่อเร็ว ๆ นี้ โรงพยาบาลเอส สไปน์ ได้เข้าร่วมงาน Oman Health Exhibition & Conference ณ รัฐสุลต่านโอมาน       ซึ่งเป็นงานประจำปีระดับนานาชาติ ที่จัดแสดงนวัตกรรม เทคโนโลยีด้านสุขภาพและการแพทย์โดยธีมการจัดงานในปี 2023 นี้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ด้านสุขภาพในปี 2050  ของรัฐบาลโอมานที่มุ่งเป้าจัดการกับความท้าทายตลอดจนการหารือเกี่ยวกับความคิดริเริ่มในการปรับปรุงด้านสุขภาพและการแพทย์


ขณะที่ นายแพทย์ดิตถพงษ์ บุญอำพล ผู้อำนวยการ รพ.เอส สไปน์ แอนด์ เนิร์ฟ นำทีมแพทย์และบุคลากรเฉพาะทางด้านกระดูกสันหลังไปให้คำแนะนำ และตรวจอาการของผู้ที่เข้ามาร่วมในงาน พร้อมวางแผนการรักษาสำหรับผู้ที่มีอาการปวดหลังอันเกิดมาจากโรคที่เกี่ยวกับกระดูกสันหลัง นอกจากนี้ รพ.เอสฯ ยังได้นำนวัตกรรมการปรึกษาผ่านระบบทางไกลแบบ VR Telemedicine ให้กับผู้ที่สนใจได้ทดลองพูดคุยกับแพทย์เสมือนกับได้นั่งตรวจอยู่ในที่เดียวกัน

นอกจากนี้ โรงพยาบาลเอส สไปน์ แอนด์ เนิร์ฟ ยังได้จัดกิจกรรมพิเศษโดยการเปิดบ้านต้อนรับแพทย์เฉพาะทางด้านกระดูกสันหลังจากประเทศอินเดีย และอินโดนีเซีย ซึ่งถือเป็นโอกาสสำคัญในการศึกษาดูงานการผ่าตัดกระดูกสันหลังด้วยกล้องเอ็นโดสโคปแบบครบวงจร ซึ่งการจัดกิจกรรมในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นในการส่งเสริมความร่วมมือทางการแพทย์ และการพัฒนาความชำนาญ แบ่งปันเทคนิคในด้านการผ่าตัดกระดูกสันหลังโดยใช้กล้องเอ็นโดสโคปให้แก่นานาชาติอีกด้วย


นพ.เมธี ภัคเวช แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูกสันหลังจากโรงพยาบาลเอส สไปน์ แอนด์ เนิร์ฟ ได้ให้การต้อนรับแพทย์จากทั้ง 2 ประเทศ พร้อมเผยเทคนิคการรักษาผู้ป่วยโรคกระดูกสันหลังผ่านกล้องเอ็นโดสโคป อาทิ การรักษาหมอนรองกระดูกสันหลังส่วนคอทับเส้นประสาทด้วยเทคนิค PSCD , การรักษากระดูกสันหลังเคลื่อนทับเส้นประสาท ด้วยเทคนิค Full Endo TLIF และ การรักษาหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท หรือโรคโพรงประสาทตีบแคบ ด้วยเทคนิค PSLD เป็นต้น


ข้อมูลจากศูนย์วิจัยธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ประเทศไทยได้แสดงให้นานาชาติเห็นถึงศักยภาพด้านการแพทย์ และตอกย้ำความพร้อมในการเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (Medical Hub) ที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจในอนาคต นอกเหนือไปจากการช่วยเพิ่มอัตราการจ้างงาน และดึงเม็ดเงินเข้าสู่ประเทศแล้ว ยังส่งผลบวกต่อการเชื่อมโยงไปยังหลายธุรกิจที่เกี่ยวข้องได้อีกมาก 


โดยองค์ประกอบสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนการเป็น Medical Hub ของไทย คือ

ศูนย์กลางบริการทางการแพทย์ (Medical Service Hub)

ศูนย์กลางบริการเพื่อส่งเสริมสุขภาพ (Wellness Hub)

ศูนย์กลางยาและผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพ (Product Hub)

ศูนย์กลางบริการวิชาการและงานวิจัย (Academic Hub)


ทั้งนี้เป็นที่ประจักษ์แล้วว่า บริการทางการแพทย์ของไทย มีความพร้อมที่จะช่วยส่งเสริมการเป็น Medical Hub สะท้อนจากความมีชื่อเสียงในด้านคุณภาพการรักษา จนเป็นที่ยอมรับจากนานาชาติอ     ซึ่งหากผนวกเข้ากับเทรนด์การแพทย์สมัยใหม่ ก็จะยิ่งช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นในด้านคุณภาพการรักษาของไทยให้ทัดเทียมกับนานาประเทศที่มีวิทยาการด้านการแพทย์ชั้นนำอย่างสหรัฐอเมริกาหรือยุโรป

โรงพยาบาลเอส สไปน์ แอนด์ เนิร์ฟ ปรึกษา โทร.02 034 0808


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad