หลายปีที่ผ่านมาหลายหน่วยงานมีการพูดถึงการผลักดันให้ประเทศไทยก้าวไปสู่ Medical Hub หรือการเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ หลังเล็งเห็นโอกาสและศักยภาพทางการแพทย์จากที่ชาวต่างชาตินิยมเดินทางมาใช้บริการจำนวนไม่น้อยในแต่ละปี กระทั่งเกิดวิกฤตโควิด-19 ยุทธศาสตร์นี้ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดอย่างจริงจังเพื่อขับเคลื่อนและฟื้นฟูเศรษฐกิจการท่องเที่ยว ตามความต้องการของตลาดโลก
ขณะที่ในปี 2566 ภาคธุรกิจศัลยกรรมความงามมีการคาดการณ์ว่าจะเติบโตเฉลี่ยเพิ่มขึ้นปีละ 2% ตัวเลขนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่จะเดินทางเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะชาวจีนที่ผ่อนคลายมาตรการการเดินทางระหว่างประเทศ และปีนี้คาดว่าตัวเลขสัดส่วนลูกค้าต่างชาติจะขยายตัวได้แบบก้าวกระโดดเพิ่มขึ้นเป็น 20-30% สำหรับในประเทศไทยหนึ่งในสถานเสริมความงามที่ต่างชาตินิยมเดินทางเข้ามาทำศัลยกรรมกันอย่างต่อเนื่องคือศูนย์ศัลยกรรมความงามโรงพยาบาลบางมด เราได้สรุปบทสัมภาษณ์ของ นพ.ธนัญชัย อัศดามงคล แพทย์เฉพาะทางด้านศัลยกรรมตกแต่งและผู้อำนวยการศูนย์ศัลยกรรมความงามโรงพยาบาลบางมด ที่ได้เปิดเผยมุมมองต่อเรื่องดังกล่าวผ่านประสบการณ์ตรงว่าทำไมศัลยแพทย์ไทยและศัลยกรรมความงามเมืองไทยมีความนิยมระดับโลก
“ศัลยกรรมเมืองไทย ไม่แพ้ชาติใดในโลก” ในสายตาชาวต่างชาติประเทศไทยไม่ได้เป็นเพียงประเทศที่โด่งดังด้านการท่องเที่ยว แต่ชื่อเสียงเรื่องศัลยกรรมของไทยนั้นก็เป็นอีกหนึ่งในชื่อเสียงที่ถูกชาวต่างชาติกล่าวขาน ปัจจุบันจึงทำให้ต่างชาตินิยมเดินทางมาประเทศไทยเพื่อใช้บริการด้านการแพทย์และหนึ่งในนั้นคือ “ศัลยกรรม” แม้ว่าจะมีคนไทยจำนวนหนึ่งคลั่งไคล้และบินไปทำศัลยกรรมถึงต่างแดน แต่ในทางกลับกันที่ศูนย์ศัลยกรรมความงามโรงพยาบาลบางมดกลับมียอดจองทำศัลยกรรมจากชาวต่างชาติข้ามปี โดยเหตุผลสำคัญคือ ความชำนาญ และชื่อเสียงแพทย์ที่ได้รับการแนะนำแบบปากต่อปาก รวมทั้ง ผลลัพธ์หลังการศัลยกรรม ด้วยเทคนิคบางมด ซึ่งเป็นเทคนิคเฉพาะทาง ทำให้แผลเล็ก พักฟื้นน้อย และดูเป็นธรรมชาติ ถือเป็นจุดแข็งที่สามารถตอบโจทย์สำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติได้ เพราะใช้ระยะเวลาพักฟื้นสั้นๆ ก็สามารถเดินทางกลับได้
ขณะที่ความคาดหวังของวงการแพทย์ไทยที่อยากให้ประเทศไทยไปสู่ MEDICAL HUB อาจไม่ไกลเกินฝัน เมื่อในเวทีระดับโลกเรามักจะพบเห็นแพทย์ไทยในหลากหลายวงการได้เข้าร่วมวงเสวนา และได้รับเกียรติบรรยายเทคนิคใหม่ๆ สู่สายตาแพทย์ต่างชาติในหลายเวที ในปี 2565 นพ.ธนัญชัย ได้รับเกียรติเป็นผู้บรรยาย (speaker) ในการประชุมวิชาการประจำปีของสมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นปีที่พิเศษเพราะเป็นการจัดร่วมกับสมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งของสิงคโปร์และไต้หวัน โดย นพ.ธนัญชัย ได้รับเกียรติเป็นผู้บรรยายใน หัวข้อ Hand Lipofilling : New Trend of Youth การฉีดไขมันหลังมือ Corner Mouth Lift by Commissuroplasty Technique ศัลยกรรมยกมุมปากเทคนิคใหม่ โดยภายในงานนี้มีศัลยแพทย์ตกแต่งจากทั้งชาวไทยและต่างชาติ เข้าร่วมรับฟังการบรรยายเป็นจำนวนมาก และให้ความสนใจเทคนิคที่นพ. ธนัญชัย นำไปบรรยายจำนวนมาก ยิ่งตอกย้ำว่าแพทย์ไทยเราไม่แพ้ชาติใดในโลก
ในอดีตการศัลยกรรมดึงหน้าจะทำในคนอายุตั้งแต่ 50 – 70 ปี หรือทำในคนที่มีความหย่อนคล้อยมากๆ แต่ปัจจุบันมีเทคนิคที่ศูนย์ศัลยกรรมความงามโรงพยาบาลบางมดนำมาใช้คือ Modern Facelift สามารถดึงหน้าแยกส่วนจึงเหมาะกับคนอายุน้อยเพราะแก้ไขปัญหาเป็นส่วนๆ ได้ อาทิ หน้าผาก Forehead lift ,ใบหน้าส่วนบนและหางตา Upper Facelift, Temporal lift ใบหน้าส่วนกลางและส่วนล่าง Lower Facelift, ลำคอ Neck lift โดยแพทย์จะต้องทำการประเมินความหย่อนคล้อยในแต่ละส่วนของใบหน้าก่อน โดยจะเน้นทำในส่วนที่มีปัญหาหย่อนคล้อย ซึ่งจะมีความแตกต่างกันในแต่ละบุคคล เช่น บางคนความหย่อนคล้อยบริเวณลำคอ ก็ทำการดึงเฉพาะลำคอ ข้อดีคือสามารถเลือกทำเฉพาะส่วนที่เป็นปัญหาจริง ๆ ไม่จำเป็นต้องทำทุกส่วน ทำให้ระยะเวลาในการพักฟื้นน้อยลง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น