การศึกษาขั้นพรีคลินิกชี้ว่า ยาโซโทรวิแมบสามารถต่อต้านการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมบริเวณโปรตีนหนามของเชื้อไวรัส SARS-CoV-2 สายพันธุ์โอมิครอน - Wellness Times News

Breaking

Home Top Ad

POST TOP AD

วันอังคารที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2564

การศึกษาขั้นพรีคลินิกชี้ว่า ยาโซโทรวิแมบสามารถต่อต้านการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมบริเวณโปรตีนหนามของเชื้อไวรัส SARS-CoV-2 สายพันธุ์โอมิครอน

  ผลการศึกษาขั้นพรีคลินิกล่าสุดของยาโซโทรวิแมบโดยการทดสอบในหลอดทดลองกับไวรัสจำลอง ที่สมบูรณ์ ได้เผยแพร่ในเว็บไซต์ bioRxiv
ตอกย้ำผลการศึกษาที่ได้ประกาศไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้วถึงความสำคัญของการใช้ยาโซโทรวิแมบในการรักษาโรคโควิด-19 ในระยะเริ่มต้น
ยาโซโทรวิแมบได้รับการอนุมัติใช้ในการรักษาโรคโควิด-19 ในระยะเริ่มต้นในสหรัฐอเมริกาและหลายประเทศทั่วโลก


แกล็กโซสมิธไคลน์ (จีเอสเค) และเวียร์ ไบโอเทคโนโลยี เปิดเผยข้อมูลการศึกษาขั้นพรีคลินิกใหม่บนเว็บไซต์ bioRxiv ก่อนการตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์ว่า จากการทดสอบยาโซโทรวิแมบ ซึ่งเป็นโมโนโคลนัลแอนติบอดี้ในหลอดทดลอง ชี้ว่ายาโซโทรวิแมบสามารถต่อต้านการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมบริเวณโปรตีนหนามของสายพันธุ์โอมิครอนที่เป็นสายพันธุ์ใหม่ของเชื้อไวรัส SARS-CoV-2 โดยการทดสอบด้วยไวรัสจำลองของการกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัสโอมิครอน ที่มีการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดสูงสุด 37 ตำแหน่งที่พบในบริเวณโปรตีนหนาม โดยการค้นพบนี้อ้างอิงจากข้อมูลการศึกษาขั้นพรีคลินิกจากการทดสอบไวรัสจำลองเมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่แสดงให้เห็นว่าโซโทรวิแมบมีประสิทธิภาพต่อต้านการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมที่สำคัญของเชื้อไวรัสโอมิครอน และยืนยันว่า ยาโซโทรวิแมบมีประสิทธิภาพในการต่อต้านสายพันธุ์ที่สร้างความน่ากังวลทั้งหมด


ดร. จอร์จ สแกนกอส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเวียร์ กล่าวว่า "ยาโซโทรวิแมบเป็นยาชนิดโมโนโคลนอลแอนติบอดี้ตัวแรกที่มีข้อมูลการศึกษาทางห้องปฏิบัติการที่แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการต่อต้านสายพันธุ์ SARS-CoV-2 ทั้งหมด ที่สร้างความกังวล (VOC) และเป็นที่สนใจ (VOI) ในปัจจุบัน รวมทั้งเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอมิครอน และสายพันธุ์เดลต้าที่ยังคงแพร่ระบาดอยางรุนแรง โดยในการทดสอบขั้นพรีคลินิกด้วยไวรัสจำลอง ยาโซโทรวิแมบแสดงผลการทดสอบ ในการทำให้ลบล้างฤทธิ์ของเชื้อไวรัสน้อยกว่า 3 เท่าของขนาดยาที่ใช้ตามปกติ ซึ่งต่ำกว่าแนวทางที่ได้รับอนุญาตจากองค์การอาหารและยาของอังกฤษ กำหนดว่า ต้องน้อยกว่า 5 เราจึงมั่นใจว่ายาโซโทรวิแมบจะสามารถช่วยรักษาผู้ป่วยในระยะแรก และจะยับยั้งการเกิดผลลัพธ์ที่ร้ายแรงที่สุดของโรคโควิด-19 ได้”


ดร. ฮาล บาร์รอน ประธานเจ้าหน้าที่ด้านวิทยาศาสตร์ และประธานฝ่ายการวิจัยและพัฒนาของจีเอสเค กล่าวว่า "นับตั้งแต่ที่ได้ร่วมมือกับเวียร์ เราได้ตั้งสมมติฐานว่า ยาโซโทรวิแมบมีประสิทธิภาพในการต่อต้านการดื้อยาของเชื้อโควิด-19 เราจึงประสบความสำเร็จในการส่งมอบยาที่ดีที่สุดในการรักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19 ในระยะเริ่มต้น ข้อมูลการศึกษาขั้นพรีคลินิกแสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่โมโนโคลนอลแอนติบอดี้มีฤทธิ์ในการต่อต้านเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอมิครอน รวมถึงสายพันธุ์อื่น ๆ ที่องค์การอนามัยโลกประกาศว่าเป็นสายพันธุ์ที่น่ากังวล และเราหวังว่าจะได้ร่วมกันหารือถึงผลลัพธ์เหล่านี้กับหน่วยงานที่ทำหน้าที่กำกับดูแลที่เกี่ยวข้องทั่วโลก”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad